แจ้งข่าวนักศึกษา012173

วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2559

รากฐานแห่งสันติภาพ (เมตตาบารมี)

รากฐานแห่งสันติภาพ (เมตตาบารมี) เขียนไว้แต่ปี 2542 ยังทันสมัยอยู่

เมื่อประมาณ 10 หรือ 15 ปีก่อนหน้านี้ ความไวของข้อมูลข่าวสารช้ามาก เหตุการณ์หนึ่งซึ่งเกิดในอีกซีกโลกหนึ่ง กว่าจะมาถึงผู้บริโภคข่าว เป็นเวลาแรมอาทิตย์ หรือหลายอาทิตย์ แต่ส่วนมากจะเป็นข่าวลือเสียมากกว่า หรือไม่ก็กระพือจนข่าวจริงมีนิดเดียว ขยายออกไปขนาดวัดไม่ได้ และผลกระทบจากข่าวสาร ของอีกซีกโลกหนึ่งดูจะไม่ค่อยกระทบต่อ วิธีชีวิตของอีกซีกโลกหนึ่งมากนัก
แต่ปัจจุบัน ยุคไอทีแสงใยแก้ว อินเตอร์เน็ตไร้สาย  ช่องทางสื่อสารฉับไว  ผ่านดาวเทียม เหตุการณ์ใดเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นจุดใดของเปลือกโลก ผู้คนทั่วโลกสามารถรับรู้ได้ในเวลาเดียวกัน เสมือนอยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งภาษาทางคอมพิวเตอร์เขาว่าเป็น Real Time (เวลาจริง) และเพราะเจ้าข้อมูลข่าวสารมาถึงผู้บริโภคทันกับเหตุการณ์จริง จึงมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจและการใช้ชีวิตอย่างมาก
ผมพูดเสียยืดยาว เพราะความไวต่อการกระจายข่าวสารมีอิทธิพลต่อประชากรโลกอย่างยิ่ง ผมมี T.V. เครื่องหนึ่ง รับสัญญาณจากดาวเทียมได้ 2,3 ดวง แต่นี่ก็เพียงพอที่ผมจะเห็นเหตุการณ์ที่เกิด ณ ขณะนั้นๆ โดยไม่ต้องรอรายงานสกู๊ฟข่าว
เห็นพี่น้องชาวตะวันออกกลาง ทะเลาะกันทุกวัน.. ชาวอินโดนีเซีย ทำร้ายชาวจีนในประเทศตน เห็นการเข่นฆ่าชาวโคโซโว ชาวทมิฬ เข้าไปล้างชาวสิงหล และอีกสารพัดแห่งความขัดแย้ง
ความขัดแย้งเป็นบ่อเกิดแห่งการทะเลาะ ทำลายล้างเป็นสาเหตุแห่งการต่อสู้ และสงคราม ทั้งที่เป็นมาที่มาของน้ำตา ความสูญเสีย และความไม่สงบ แถมข่าวแบบเรียลไทม์ ยังตอกย้ำความขัดแย้งและการสูญเสียอีก ก่อให้เกิดความเกลียดชังในใจของมนุษย์อยู่ตลอดเวลา
ตามหลักของพระพุทธศาสนา สรรพสิ่งทั้งหลายต่างอิงอาศัยกันและกัน อย่างหนึ่งเป็นสาเหตุ อีกอย่างหนึ่งเป็นผล สาเหตุเดียวอาจก่อให้เกิดผลทั้งทางตรง และทางอ้อมมากมาย แผ่กระจายภูมิภาคหนึ่งไปสู่ภูมิภาคหนึ่งอย่างลูกคลื่นเหนือน่านน้ำ
สิ่งที่เห็นชัดที่สุด เช่นเมื่อเกิดสงครามอ่าวเปอร์เเซีย ทำให้น้ำมันโลกมีราคาสูงเพราะการขาดแคลนเนื่องจากสงคราม ข้าวของเครื่องอุปโภค บริโภคของเราก็ถีบตัวสูงขึ้น เพราะต้นทุนการผลิตสูง ต้องขายแพง ค่าครองชีพของเราก็ต้องสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว รายได้เท่าเดิม แต่รายจ่ายเท่าตัว นี่คือ ภัยทางเศรษฐกิจ อันเกิดมาจาก สงครามข่าว
ใกล้ตัวเรามาหน่อย เรื่องการเมืองเมื่ออินโดนีเซีย ประท้วงไล่ซูฮาโต หรือมหาเธร์ จับคู่แข่งทางการเมืองใช่ว่า บ้านเราเมืองเราจะนอนดู เพื่อนบ้านถูกไฟไหม้หรือย่าง เขมร 4 ฝ่ายกลำลัง เขม็งเกรียวไฟ แห่งความรุนแรงเพราะไม่มีใครยอมใคร ถล่มอาวุธใส่กันรายวัน
ประเทศไทยยังจะยืนยิ้มดูเสือกัดกันอย่างเบิกบานกระนั้นหรือ เราจะเป็นประเทศเดียวในภูมิภาคนี้ ที่สามารถนอนตาหลับในขณะ ไฟไหม้บ้านรอบ ๆ ได้หรือ?
ครับ.. นี่คือ ผลพวกของกระแสโลกาวิวัตน์ เราต้องช่วยกันรับผิดชอบ แก้ปัญหาไม่มากก็น้อย
 ทางแก้มิใช่การออกกฎหมาย หรือ การทำซัมมิท (Summit) ประชุมสุดยอดผู้นำ ณ ประเทศใดประเทศหนึ่ง เพราะนั่นคือ การแก้เพียงปลายเหตุ แถมบางทีแก้ไม่ถูกจุด เกาไม่ถูกที่คัน ต้องสาวหาต้นเหตุหรือต้นตอปัญหาให้ได้
ความเกลียด ความโกรธแค้น อาฆาตพยาบาท จองเวร สงครามเอาเปรียบ การดูถูกเหยียดหยามกันของคนในโลกนี้ พระพุทธเจ้าชี้เหตุไปเลยว่า เกิดจากการขาดความเมตตาไม่มีน้ำใจรักใคร่ ในเพื่อนมนุษย์ร่วมโลก
ผู้ที่เกลียดชังเพื่อนมนุษย์ ไม่รักเพื่อนมนุษย์ คือผู้ที่เกลียดตัวเองไม่รักตัวเอง การทำใจให้รักเพื่อนมนุษย์ เป็นสิ่งที่ทำยากแต่หากทำได้จริงๆ จะเป็นการแก้สาเหตุของปัญหาได้ตรงจุด แก้ถูกปมของความยุ่งเหยิงขัดแย้ง เป็นที่มาของ สันติสุข และสันติภาพ
ความรักที่เป็นที่มาของสันติสุข คือ เมตตาบารมี

ปลูกเมตตาให้มากเท่าใด โลกก็จะสงบสุขเท่านั้น
พระท่านว่า  เมตตาเป็นเครื่องค้ำจุนโลกให้ดำรงอยู่
อย่างไรเสีย โลกใบนี้ เราคงยังต้องอยู่ร่วมกัน เพราะโลกอื่นนักวิทยาศาสตร์ยังค้นไม่พบที่จะแยกย้ายกันไปอยู่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น