รายงานวิจัย : เรื่อง
รูปแบบการจัดการศึกษาและการเผยแผ่ศาสนธรรม วัดจองคำ :
โรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกบาลี ตำบลบ้านหวด อำเภองาว จังหวัดลำปาง
ผู้วิจัย : พิสิฏฐ์ โคตรสุโพธิ์
ปีงบประมาณ : 2545
แหล่งทุนวิจัย : สำนักงานเลาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ
โรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกบาลี ตำบลบ้านหวด
อำเภองาว จังหวัดลำปาง” มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาบริบททั่วไป สภาพการจัดการศึกษา สภาพการเผยแผ่ศาสนธรรม
สภาพการบริหารการศึกษา และรูปแบบการจัดการศึกษาและการเผยแพร่ศาสนธรรม โดยมุ่งข้อเท็จจริง
และสาระสำคัญที่เกี่ยวกับกระบวนการทำงานที่ผ่านมา
ผู้วิจัยได้ทำการศึกษา
ได้พบเห็นและสามารถสรุป ประเด็นที่โดดเด่นของการจัดการศึกษาด้านพระปริยัติธรรม แผนกบาลี
ของวัดจองคำ ตำบลบ้านหวด อำเภองาว จังหวัดลำปาง ด้านรูปแบบของการจัดการศึกษาที่เป็นเอกลักษณ์ของตน
เพื่อเป็นทิฏฐานุคติให้วัดอื่นๆที่มีภารกิจจัดการศึกษาในด้านพระปริยัติธรรมที่คล้ายกันนี้
ได้นำไปประยุกต์ใช้ อันอาจจะเกิดประโยชน์ทั้งแก่ตนและสังคมในภาพรวม
เป็นการขยายผลแห่งความสำเร็จให้แพร่หลายไปทั่วทุกแห่ง ประการสำคัญ
ก็ถือว่าเป็นภารกิจหลักของสถาบันสงฆ์ และบุคลากรผู้ที่เกี่ยวข้องทางวัดและโรงเรียนจำต้องปฏิบัติหน้าที่อยู่แล้วให้เพิ่มคุณภาพการปฏิบัติงานในระดับที่ตนประสงค์ได้
สาระสำคัญที่ค้นพบจากการศึกษาวิจัยมีดังต่อไปนี้
1.
ด้านบริบททั่วไปของ
วัดและโรงเรียนวัดจองคำ
วัดจองคำ แม้จะตั้งอยู่ห่างจากชุมชนเมือง แต่ทางวัดก็ได้พัฒนาเพื่อความเจริญพรั่งพร้อมด้วยปัจจัย
สาธารณูปโภคสะดวกสบายพอสมควร เทคโนโลยีสมัยใหม่ได้ถูกนำมาใช้อย่างคุ้นเคย
แสภาพทั่วไปทางภูมิศาสตร์การคมนาคมสะดวกสบาย
สภาพทางเศรษฐกิจของวัดก็มีคณะศรัทธาให้การอุปถัมภ์ไม่ลำบากด้วยปัจจัย 4 ความสัมพันธ์ระหว่างวัดกับชุมชน
ไม่เป็นปัญหาเพราะชุมชนถือว่าเป็นภาระหน้าที่จะต้องอุปถัมภ์และแสดงถึงความเป็นฐานทางวัฒนธรรมของกลุ่มตนเอง จึงภูมิใจ
สภาพการเป็นอยู่ของพระภิกษุสามเณรก็ไม่ลำบากด้วยอาหารบิณฑบาต เสนาสนะที่พำนักก็เป็นสัปปายะเหมาะแก่สมณวิสัย
ในส่วนของโรงเรียนก็มีอาคารเรียนที่เอื้อต่อการขยายการศึกษาสามารถรองรับจำนวนผู้เรียนที่จะเข้าศึกษาในอนาคตได้
2.
ด้านการจัดการศึกษา
ในด้านการจัดการศึกษา วัดจองคำ
มิได้เพียงจัดการศึกษาตามกรอบที่กลุ่มคณะวางแผนการวิจัยโครงการนำร่องได้กำหนดเป็นความโดดเด่นเอาไว้
แม้จะได้รับความนิยมว่า ทางวัดสามารถบริหารจัดการศึกด้านปริยัติธรรม นักธรรม
มีผู้เข้าเรียนเข้าสอบได้ปีละจำนวนเป็นร้อยๆ เท่านั้น ยังได้จัดการศึกษาอื่นๆเสริมหลักสูตรอีกด้วย และทางวัดยังได้จัดการศึกษาเพื่อการอบรมเยาชนเป็นงานรับผิดชอบด้วย
เช่นมีโรงเรียนพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ในวัด
การศึกษาในสถาบันสงฆ์ จะเป็นการขาดไปอีกครึ่งหนึ่งถ้าหากว่า
ไม่ติดตามด้วยการปฏิบัติ ทางวัดบางวัดจองคำก็มีระยะเวลาที่เปิดอบรมการปฏิบัติกรรมฐานเพื่อฝึกจิตของตน
โดยมีการแบ่งฝ่ายงานด้านการเผยแผ่และด้านวิปัสสนา ตามตามรางการบริหารวัด ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา
วัดจองคำก็ได้มีโครงการรักษาศีลในวันอุโบสถและนอนวัดค้างเพื่อฝึกกรรมฐาน เป็นระยะๆ
อุโบสถละ 2 วัน ตลอดพรรษาก็จะได้จำนวนวันมิน้อยสำหรับผู้ปฏิบัติที่มีความตั้งใจจริง
3. การบริหารการศึกษา
วัดจองคำ มีระบบการบริหารการศึกษาและมีกระบวนการจัดการศึกษาที่เป็นระบบอย่างชัดเจน
เจ้าอาวาสมีภาวะผู้นำ มีวิสัยทัศน์ มีการแบ่งภาระมอบหมายงานให้ผู้ใต้บังคับบัญชา
หรือผู้ร่วมงาน รับผิดชอบตามความถนัด ความสามารถ เหมาะกับทักษะ
ความชำนาญของแต่ละบุคคล มีการบริหารแบบกระจายอำนาจรับผิดชอบเป็นฝ่ายๆ
เห็นได้จากแผนผังการบริหารโรงเรียนของวัดจองคำ เพราะมีการวางแผนสร้างตัวตายตัวแทนอย่างเป็นระบบ
ทางวัดจึงไม่มีปัญหาด้านความสืบเนื่องของบุคลากรด้านการศึกษา
4.
ด้านรูปแบบการจัดการศึกษา
การจัดการศึกษาของแต่ละวัดแม้จะมีหลักสูตรกลางที่ออกมาจากส่วนกลาง
แต่ทางวัดเองก็มีเทคนิควิธีที่จะบริหารให้หลักสูตรนั้นๆเป็นที่สนในและตอบสนองความต้องการของผู้ประสงค์จะศึกษาซึ่งโดดเด่นแตกต่างกันออกไป
มีกฎระเบียบปฏิบัติ มีปฏิทินการศึกษา
มีการประเมินผลเพื่อการแก้ปัญหาทุกเดือน มีการสอบสนามวัด
และการอบรมเข้มก่อนการสอบอย่างเป็นระบบ นักเรียนไม่ต้องกังวลเรื่องปัจจัย 4
จึงมีเวลาใส่ใจการศึกษาอย่างเพียงพอ
5. สาเหตุที่ทำให้วัดประสบผลสำเร็จ
การที่สามเณรในวัดจองคำ
ในปีการศึกษา 2545 สามารถสอบประโยค ป.ธ.9
และเป็นรุ่นแรกของวัดจองคำได้จำนวนถึง 7 รูปนั้น
ไม่ใช่เป็นเรื่องแปลกและพิเศษอะไร ถ้าได้ศึกษาการทำงานอย่างเป็นระบบและมีกระบวนการ
วางแผน การปฏิบัติการจริง การตรวจสอบติดตามประเมินผล
และนำผลการประเมินมาทำการปรับปรุงแก้ไข ตามกรอบ PDCA แล้ว
จะพบว่า พระภิกษุสามเณรทุกรูปที่อยู่ในวัดจองคำต้องปฏิบัติตามกรอบและระเบียบของสำนักฯ
อย่างเคร่งครัด
การบริหารการจัดการเรียนการสอนพระปริยัติธรรมของวัด เจ้าอาวาสและคณาจารย์ต้องขยันและอดทนมาก
วิธีที่สำคัญที่สุดอยู่ที่การจัดการปกครองนักเรียนเป็นอันดับหนึ่ง เน้นการรับผิดชอบสูงทั้งของครูและนักเรียน กิจกรรมการเรียนการสอนแทบจะไม่มีการหยุดหรือขาด
(ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ) และสุดท้ายใช้เวลาในการอบรมพิเศษก่อนสอบบาลีสนามหลวงที่ยาวนานกว่าที่อื่นๆ และมีกรณีพิเศษอยู่บ้าง คือ นักเรียนดู (แปล)
หนังสือได้หลายรอบ
นักเรียนแต่งไทย
หรือแต่งฉันท์ได้หลายรอบ นักเรียนเขียน หรือทำแบบฝึกหัดเกือบทุกวัน (การเขียนบ่อย ๆ
ทำให้แม่นยำ)
การที่จะจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลีจนประสบความสำเร็จได้นั้น เมื่อกล่าวโดยสรุปแล้วต้องอาศัยเหตุปัจจัยหลาย
ๆ อย่าง เช่น
1. เจ้าสำนักเรียน ต้องมีเจตนาและศรัทธาต่อการให้การศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลีอย่างแรงกล้า
มีความรู้ความเข้าใจในภาษาบาลีและมองเห็นประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นจากการศึกษาภาษาบาลีซึ่งเป็นภาษาที่รักษาพระพุทธวจนะ
(พระธรรมวินัย) ที่ได้บันทึกไว้ด้วยภาษาบาลีในพระไตรปิฎก ต้องเสียสละกำลังกาย กำลังความคิด
กำลังทรัพย์ และกำลังสติปัญญา ในการส่งเสริมการศึกษาภาษาบาลีนี้ โดยไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยากลำบาก
นอกจากนี้เจ้าสำนักต้องสรรหาอุปกรณ์การเรียนการสอนทุกชนิดที่จะอำนวยความสะดวกในการเรียนการสอน
สอดส่องดูแลเอาใจใส่ในความเป็นอยู่ของอาจารย์และนักเรียนอย่างใกล้ชิด และสนับสนุนให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียน
ตลอดจนสงเคราะห์ศิษยานุศิษย์พุทธศาสนิกชนทั่วไปด้วยเมตตาจิต
2. คณาจารย์ก็ต้องมีเจตนาและศรัทธาในการสอนอย่างแท้จริง มีความรับผิดชอบในหน้าที่การสอน
หมั่นศึกษาค้นคว้าตำราวิชาการเกี่ยวกับการเรียนการสอนด้านภาษาบาลีอย่างสม่ำเสมอ ตลอดจนมีความรับผิดชอบในด้านการบริหารและการปกครองดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยของนักเรียน
ให้การอบรมสั่งสอนด้วยหวังความเจริญก้าวหน้าของนักเรียนโดยไม่คำนึงถึงความเหนื่อยยาก
3. นักเรียนต้องมีความตั้งใจพากเพียรพยายามในการศึกษาเล่าเรียนอย่างเต็มที่ ปฏิบัติตนตามกฎระเบียบของสำนักฯ เช่น
ห่มดองรัดอกให้เรียบร้อย เข้าเรียนให้ตรงเวลา ให้ความเคารพ
4. อาจารย์ผู้สอน ตลอดจนเอาใจใส่กิจวัตรทุกอย่างของสำนักฯ เช่น
ทำวัตรสวดมนต์
การรับฟังโอวาทของเจ้าสำนักฯ
ฯลฯ โดยไม่คำนึงถึงความเหนื่อยยาก
5. ทุนสำหรับการบริหารการจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลีนี้
มีความจำเป็นที่จะต้องจัดหาให้เพียงพอต่อการบริหารการศึกษา
แต่ว่าไม่ใช่สิ่งที่เป็นปัญหาและอุปสรรคที่สำคัญ ไม่ใช่สิ่งที่น่าเป็นห่วง สิ่งสำคัญอยู่ที่เจ้าสำนักฯ
มีเจตนาและศรัทธาอย่างจริงจังที่จะทำงาน
ถ้าเจ้าสำนักฯ ทำอย่างจริงจัง
ศิษยานุศิษย์และศรัทธาญาติโยมจะสละทุนทรัพย์มาช่วยอย่างแน่นอน
ดังนั้น
การที่จะจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลีให้ประสบความสำเร็จได้นั้น ต้องอาศัยเหตุปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ดังที่ได้ค้นพบดังกล่าวมา
ข้อค้นพบในงานวิจัย
การวิจัยเพื่อให้เห็นเอกลักษณ์ กระบวนการทำงาน
การบริหารจนประสบเชื่อเสียงและความสำเร็จด้านจัดการศึกษา จนได้รับการยกย่องอ้างอิงว่า
ถ้าการศึกษาพระปริยัติธรรมบาลีสมัยใหม่นี้ ต้องจัดการบริหารหลักสูตรในรูปแบบของสำนักเรียนวัดจองคำ
อำเภองาว จังหวัดลำปาง ได้ดำเนินการมาตามขั้นตอน จนถึงขั้นตอนสุดท้ายเสร็จสิ้นแล้ว
ผู้วิจัยได้ทำการศึกษา ได้พบเห็นและสามารถสรุป ประเด็นที่โดดเด่นของการจัดการศึกษาด้านพระปริยัติธรรม
ด้านรูปแบบของการจัดการศึกษาที่เป็นเอกลักษณ์ของตน เพื่อเป็นทิฏฐานุคติให้วัดอื่นๆที่มีภารกิจจัดการศึกษาในด้านพระปริยัติธรรมทำนองนี้
หรือคล้ายกันนี้ ได้นำไปประยุกต์ใช้
อันอาจจะเกิดประโยชน์ทั้งแก่ตนและสังคมในภาพรวม
เป็นการขยายผลแห่งความสำเสร็จให้แพร่กระจายไปทั่วทุกแห่ง ประการสำคัญ
ก็ถือว่าเป็นภารกิจหลักของสถาบันสงฆ์ และบุคลากรคือพระสงฆ์และผู้เกี่ยวข้องทางวัดและโรงเรียนจำต้องปฏิบัติหน้าอยู่แล้วให้เพิ่มคุณภาพในระดับที่ตนประสงค์ได้
ดังต่อไปนี้
1. ข้อมูลด้านสภาพทั่วไป
ผู้วิจัยได้ตั้งคำถามหลักเพื่อการค้นคว้าเอาไว้ 5 ประการ คือ
1.1 บริบททั่วไปของ วัดและโรงเรียน เป็นอย่างไร 1.2. การจัดการศึกษา เป็นอย่างไร 1.3 การบริหารการศึกษา เป็นอย่างไร 1.4 รูปแบบการจัดการศึกษา
เป็นอย่างไร 1.5 ปัจจัยที่ส่งเสริมให้ประสบความสำเร็จ ด้วยการตั้งคำถามเหล่านี้เป็นเครื่องชี้ทางไปหาข้อมูล
ค้นคว้าและทำการวิจัย ผู้วิจัยจึงได้ตำตอบมาจากตำหรับตาราหรือข้อมูลที่ทางวัดมีอยู่
และอีกหลายส่วนจากการออกแบบสอบถาม การออกไปสังเกต การสัมภาษณ์ พอจะประมวลได้ดังนี้
1.1 ด้านบริบททั่วไปของ
วัดและโรงเรียน ของวัดจองคำ
วัดจองคำ
แม้จะตั้งอยู่ห่างจากชุมชนเมือง แต่ทางวัดก็ได้พัฒนาเพื่อความเจริญพรั่งพร้อมด้วยปัจจัย
สาธารณูปโภคสะดวกสบายพอสมควร เทคโนโลยีสมัยใหม่ได้ถูกนำมาใช้อย่างคุ้นเคย แสภาพทั่วไปทางภูมิศาสตร์การคมนาคมสะดวกสบาย สภาพทางเศรษฐกิจของวัดก็มีคณะศรัทธาให้การอุปถัมภ์ไม่ลำบากด้วยปัจจัย
4 ความสัมพันธ์ระหว่างวัดกับชุมชน
ไม่เป็นปัญหาเพราะชุมชนถือว่าเป็นภาระหน้าที่จะต้องอุปถัมภ์และแสดงถึงความเป็นฐานทางวัฒนธรรมของกลุ่มตนเอง จึงภูมิใจ
สภาพการเป็นอยู่ของพระภิกษุสามเณรก็ไม่ลำบากด้วยอาหารบิณฑบาต
เสนาสนะที่พำนักก็สัปปายะเหมาะแก่สมณวิสัย
ในส่วนของโรงเรียนก็มีอาคารเรียนที่เอื้อต่อการขยายการศึกษาสามารถรองรับจำนวนผู้เรียนที่จะเข้าศึกษาในอนาคตได้
1.2 ด้านการจัดการศึกษา
ในด้านการจัดการศึกษา วัดจองคำ
มิได้เพียงจัดการศึกษาตามกรอบที่กลุ่มคณะวางแผนการวิจัยโครงการนำร่องได้กำหนดเป็นความโดดเด่นเอาไว้
แม้จะได้รับความนิยมว่า ทางวัดสามารถบริหารจัดการศึกด้านปริยัติธรรม นักธรรม
มีผู้เข้าเรียนเข้าสอบได้ปีละจำนวนเป็นร้อยๆ เท่านั้น ยังได้จัดการศึกษาอื่นๆเสริมหลักสูตรอีกด้วย และทางวัดยังได้จัดการศึกษาเพื่อการอบรมเยาชนเป็นงานรับผิดชอบด้วย
เช่นมีโรงเรียนพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ในวัด
การศึกษาในสถาบันสงฆ์
จะเป็นการขาดไปอีกครึ่งหนึ่งถ้าหากว่า ไม่ติดตามด้วยการปฏิบัติ ทางวัดบางวัดจองคำก็มีระยะเวลาที่เปิดอบรมการปฏิบัติกรรมฐานเพื่อฝึกจิตของตน
โดยมีการแบ่งฝ่ายงานด้านการเผยแผ่และด้านวิปัสสนา ตามตามรางการบริหารวัด ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา
วัดจองคำก็ได้มีโครงการรักษาศีลในวันอุโบสถและนอนวัดค้างเพื่อฝึกกรรมฐาน เป็นระยะๆ
อุโบสถละ 2 วัน ตลอดพรรษาก็จะได้จำนวนวันมิน้อยสำหรับผู้ปฏิบัติที่มีความตั้งใจจริง
1.3 ด้านการเผยแผ่ศาสนธรรม
พระสงฆ์นอกจากจะฝึกหัดอบรมตนเองเพื่อควบคุมสมดุลกายและจิตของตนแล้ว
หน้าที่หลักในฐานะพุทธบุตร คือการเผยแผ่พระศาสนา พระบรมศาสดาฝากศาสนาไว้ที่ศาสนทายาทของพระองค์
พระสงฆ์จึงถือเป็นหน้าที่ต้องเผยแผ่ศาสนธรรม อบรมจริยธรรม
ศีลธรรมเพื่อสร้างความสงบสันติ
ความสุขทั้งกายและใจแก่พหูชนตามคำสั่งพระบรมศาสดาที่ทรงส่งพระสาวกไปประกาศพระพุทธศาสนาครั้งแรกเมื่อ
45 ปีก่อนพุทธศักราช
เป็นที่ยินดีที่วัดจองคำแม้จะเน้นการจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลีเป็นหลัก
แต่ทางวัดมิได้ทอดธุระภารกิจการเผยแผ่ศาสนธรรม มีโครงการอบรมต่างๆมากมาย
แทบทุกเดีอน โดยเฉพาะโครงการพระสงฆ์ช่วยสอนพระพุทธศาสนา
หรือเป็นวิทยากรอบรมในโรงเรียน มิได้ขาด วิทยากรได้ถูกรับเชิญไปบรรยายและอบรมอยู่เสมอ
1.4 การบริหารการศึกษา
วัดจองคำ มีระบบการบริหารการศึกษาและมีกระบวนการจัดการศึกษาที่เป็นระบบอย่างชัดเจน
เจ้าอาวาสมีภาวะผู้นำ มีวิสัยทัศน์ มีการแบ่งภาระมอบหมายงานให้ผู้ใต้บังคับบัญชา
หรือผู้ร่วมงาน รับผิดชอบตามความถนัด ความสามารถ เหมาะกับทักษะ ความชำนาญของแต่ละบุคคล
มีการบริหารแบบกระจายอำนาจรับผิดชอบเป็นฝ่ายๆ
เห็นได้จากแผนผังการบริหารโรงเรียนของวัดจองคำ เพราะมีการวางแผนสร้างตัวตายตัวแทนอย่างเป็นระบบ
ทางวัดจึงไม่มีปัญหาด้านความสืบเนื่องของบุคลากรด้านการศึกษา
1.5 ด้านรูปแบบการจัดการศึกษา
การจัดการศึกษาของแต่ละวัดแม้จะมีหลักสูตรกลางที่ออกมาจากส่วนกลาง
แต่ทางวัดเองก็มีเทคนิควิธีที่จะบริหารให้หลักสูตรนั้นๆเป็นที่สนในและตอบสนองความต้องการของผู้ประสงค์จะศึกษาซึ่งโดดเด่นแตกต่างกันออกไป
มีกฎระเบียบปฏิบัติ มีปฏิทินการศึกษา
มีการประเมินผลเพื่อการแก้ปัญหาทุกเดือน มีการสอบสนามวัด
และการอบรมเข้มก่อนการสอบอย่างเป็นระบบ นักเรียนไม่ต้องกังวลเรื่องปัจจัย 4
จึงมีเวลาใส่ใจการศึกษาอย่างเพียงพอ
2.
ผลการวิเคราะห์จากแบบสอบถาม
ผู้วิจัยได้ออกแบบสอบถามตอนที่ 2 ส่วนที่เกี่ยวกับความคิดเห็นด้านการจัดการศึกษา
กำหนดไว้ฝ่ายละ 5 ด้านและค้นพบข้อสรุปแต่ละด้าน
ของวัดจองคำดังนี้
2.1.1 การบริหารงานทั่วไป
ผู้ตอบแบบสอบถามของวัดจองคำ
จังหวัดลำปาง โดยเห็นด้วยมากในเรื่องที่ผู้บริหารมีการกำหนดนโยบายและเป้าหมายคุณภาพของสถานศึกษาอย่างชัดเจน (X= 3.90) รองลงมาคือเห็นด้วยมากในเรื่องผู้บริหารจัดสิ่งอำนวยความสะดวก
เพื่อการปฏิบัติงานด้านศึกษาแก่ครู (X = 3.86) และผู้บริหารกำกับติดตามด้วยการสอบถามการประชุมและการให้รายงานผลเป็นระบบ (X= 3.79) ตามลำดับ
2.1.2 รูปแบบการจัดการศึกษา(หลักสูตร)
ผู้ตอบแบบสอบถามของวัดจองคำ
เห็นด้วยมากในเรื่องมีการแสวงหาครูที่มีคุณสมบัติเหมาะสมมาปฏิบัติการในแต่ละหลักสูตร
(ถ้าขาดแคลน) (X= 4.42) รองลงมาคือเห็นด้วยมากในเรื่องมีการประชุมปฏิบัติการทำกำหนดการสอนและแผนการสอน (X= 4.37) และมีการประชุมครูเพื่อการวิเคราะห์
ประเมิน
หลักสูตรและการบริหารหลักสูตรก่อนและหลังการจัดการศึกษา (X= 4.17) ตามลำดับ
2.1.3
รูปแบบการจัดการศึกษา(นักเรียน)
ผู้ตอบแบบสอบถามของวัดจองคำ
เห็นด้วยมากในเรื่อง
มีการให้กำลังใจแก่ผู้เรียนทั้งในระหว่างการเรียนและประสบความสำเร็จในการเรียนอย่างทั่วถึง (X= 4.58) รองลงมาคือเห็นด้วยมากในเรื่อง
มีการกำกับดูแลเอาใจใส่ผู้เรียนอย่างทั่วถึง ( X= 4.56) และ มีการติดตามพัฒนาการการเรียนรู้ของผู้เรียนอย่างทั่วถึงและแก้ปัญหาหารายบุคคลเมื่อมีปัญหา (X= 4.42) ตามลำดับ
2.1.4
อาคารสถานที่
ผู้ตอบแบบสอบถามของวัดจองคำ เห็นด้วยมากในเรื่องการวางแผนการใช้อาคารและห้องเรียนอย่างเป็นระบบ (X = 4.25) รองลงมาคือเห็นด้วยมากในเรื่อง
มีอาคารสถานที่เพียงพอต่อการจัดการศึกษา (X= 4.21) และ
มีห้องประชุม
ห้องปฏิบัติกิจกรรมที่เหมาะสมกับจำนวนผู้เข้าประชุมหรือปฏิบัติการ (X= 4.10) ตามลำดับ
2.1.5
การประชาสัมพันธ์และการระดมทรัพยากร
ผู้ตอบแบบสอบถามของวัดจองคำ
เห็นด้วยมากในเรื่องมีการระดมทรัพยากร ด้านบุคลากร ด้านงบประมาณอย่างสม่ำเสมอ (X= 3.94) รองมาคือเห็นด้วยมากในเรื่อง
มีการประชาสัมพันธ์กิจกรรมของสถาบันการศึกษาอย่างต่อเนื่อง (X= 3.75) และมีการแสวงหาแหล่งทุนเพื่อจัดการการเรียนรู้ (X= 3.73) ตามลำดับ
3.
ปัญหาอุสรรคและวิธีแก้ปัญหา
ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับสภาพปัญหา/อุปสรรคและความสำเร็จที่มีต่อการจัดการศึกษา
3.1 ด้านการจัดการศึกษา
สภาพปัญหา
1. ในท้องถิ่นไม่ค่อยมีครูผู้สอนประจำ ต้องหาครูจากกรุงเทพมาสอน
2. ต้องใช้เงินจำนวนมากในการจัดหาครูมาสอน
3. จำนวนนักเรียนที่มาเรียนค่อนข้างน้อย
4. ขาดความต่อเนื่องของการบริหารงาน
5. ขาดการติดตาม
และประเมินผลจากผู้ปกครองที่มีอำนาจในการบริหารการศึกษา
6. นักเรียนไม่ค่อยปฏิบัติตามกฎระเบียบเท่าที่ควร
7. นักเรียนส่วนใหญ่ไม่ค่อยเห็นประโยชน์ในการเรียนเท่าที่ควร
8. นักเรียนสนใจในการศึกษาในด้านปริยัติสามัญ
มากกว่าการศึกษาพระปริยัติธรรม
9. นักเรียนมีพื้นฐานทางภาษาไทยไม่ดีพอ
3.2 ทางแก้
1.
วางแผนการผลิตครูที่สำเร็จจากสำนักให้รับผิดชอบการเรียนการสอน
2. วางแผนการศึกษาอย่างเป็นระบบและมีเป้าหมายที่ต้องการบรรลุอย่างชัดเจนสามารถปฏิบัติได้
3.
จัดการศึกษาตามแผนที่กำหนดไว้แต่ละปี โดยมีผู้รับผิดชอบชัดเชน
4.
มีการประเมิลผลการปฏิบัติงานอย่างสม่ำเสมอ พบปัญหาต้องระดมสมองช่วยกันแก้ไขปัญหา
5. ผู้นำมีความเสียสละ
รักและเอาใจใสสอดส่องกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด
6. การปกครองมีระเบียบวินัยเข้มงวด
4.
สาเหตุที่ทำให้วัดประสบผลสำเร็จ
การที่สามเณรในวัดจองคำ
ในปีการศึกษา 2545 สามารถสอบประโยค ป.ธ.9 และเป็นรุ่นแรกของวัดจองคำได้จำนวนถึง 7 รูปนั้น
ไม่ใช่เป็นเรื่องแปลกและพิเศษอะไร ถ้าได้ศึกษาการทำงานอย่างเป็นระบบและมีกระบวนการ
วางแผน การปฏิบัติการจริง การตรวจสอบติดตามประเมินผล
และนำผลการประเมินมาทำการปรับปรุงแก้ไข ตามกรอบ PDCA แล้ว
จะพบว่า
พระภิกษุสามเณรทุกรูปที่อยู่ในวัดจองคำต้องปฏิบัติตามกรอบและระเบียบของสำนักฯ อย่างเคร่งครัด
การบริหารการจัดการเรียนการสอนพระปริยัติธรรมของวัด เจ้าอาวาสและคณาจารย์ต้องขยันและอดทนมาก วิธีที่สำคัญที่สุดอยู่ที่การจัดการปกครองนักเรียนเป็นอันดับหนึ่ง
เน้นการรับผิดชอบสูงทั้งของครูและนักเรียน กิจกรรมการเรียนการสอนแทบจะไม่มีการหยุดหรือขาด
(ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ) และสุดท้ายใช้เวลาในการอบรมพิเศษก่อนสอบบาลีสนามหลวงที่ยาวนานกว่าที่อื่นๆ และมีกรณีพิเศษอยู่บ้าง คือ นักเรียนดู (แปล)
หนังสือได้หลายรอบ นักเรียนแต่งไทย หรือแต่งฉันท์ได้หลายรอบ นักเรียนเขียน
หรือทำแบบฝึกหัดเกือบทุกวัน (การเขียนบ่อย ๆ ทำให้แม่นยำ)
การที่จะจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลีจนประสบความสำเร็จได้นั้น เมื่อกล่าวโดยสรุปแล้วต้องอาศัยเหตุปัจจัยหลาย
ๆ อย่าง เช่น
1.
เจ้าสำนักเรียน
ต้องมีเจตนาและศรัทธาต่อการให้การศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลีอย่างแรงกล้า มีความรู้ความเข้าใจในภาษาบาลีและมองเห็นประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นจากการศึกษาภาษาบาลีซึ่งเป็นภาษาที่รักษาพระพุทธวจนะ
(พระธรรมวินัย) ที่ได้บันทึกไว้ด้วยภาษาบาลีในพระไตรปิฎก ต้องเสียสละกำลังกาย กำลังความคิด
กำลังทรัพย์ และกำลังสติปัญญา ในการส่งเสริมการศึกษาภาษาบาลีนี้ โดยไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยากลำบาก
นอกจากนี้เจ้าสำนักต้องสรรหาอุปกรณ์การเรียนการสอนทุกชนิดที่จะอำนวยความสะดวกในการเรียนการสอน
สอดส่องดูแลเอาใจใส่ในความเป็นอยู่ของอาจารย์และนักเรียนอย่างใกล้ชิด และสนับสนุนให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียน ตลอดจนสงเคราะห์ศิษยานุศิษย์พุทธศาสนิกชนทั่วไปด้วยเมตตาจิต
2. คณาจารย์ก็ต้องมีเจตนาและศรัทธาในการสอนอย่างแท้จริง มีความรับผิดชอบในหน้าที่การสอน
หมั่นศึกษาค้นคว้าตำราวิชาการเกี่ยวกับการเรียนการสอนด้านภาษาบาลีอย่างสม่ำเสมอ
ตลอดจนมีความรับผิดชอบในด้านการบริหารและการปกครองดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยของนักเรียน
ให้การอบรมสั่งสอนด้วยหวังความเจริญก้าวหน้าของนักเรียนโดยไม่คำนึงถึงความเหนื่อยยาก
3.
นักเรียนต้องมีความตั้งใจพากเพียรพยายามในการศึกษาเล่าเรียนอย่างเต็มที่ ปฏิบัติตนตามกฎระเบียบของสำนักฯ เช่น
ห่มดองรัดอกให้เรียบร้อย เข้าเรียนให้ตรงเวลา ให้ความเคารพ
4. อาจารย์ผู้สอน ตลอดจนเอาใจใส่กิจวัตรทุกอย่างของสำนักฯ เช่น
ทำวัตรสวดมนต์
การรับฟังโอวาทของเจ้าสำนักฯ
ฯลฯ โดยไม่คำนึงถึงความเหนื่อยยาก
5. ทุนสำหรับการบริหารการจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลีนี้ มีความจำเป็นที่จะต้องจัดหาให้เพียงพอต่อการบริหารการศึกษา
แต่ว่าไม่ใช่สิ่งที่เป็นปัญหาและอุปสรรคที่สำคัญ ไม่ใช่สิ่งที่น่าเป็นห่วง สิ่งสำคัญอยู่ที่เจ้าสำนักฯ
มีเจตนาและศรัทธาอย่างจริงจังที่จะทำงาน ถ้าเจ้าสำนักฯ ทำอย่างจริงจัง ศิษยานุศิษย์และศรัทธาญาติโยมจะสละทุนทรัพย์มาช่วยอย่างแน่นอน
ดังนั้น
การที่จะจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลีให้ประสบความสำเร็จได้นั้น ต้องอาศัยเหตุปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ดังที่ได้ค้นพบดังกล่าวมา
5.
สรุปและเสนอแนะ
ผลการศึกษาวิจัย
ได้รูปแบบการจัดการศึกษาที่ชัดเจนคือ มีการวางแผนเป็นระบบทั้งด้านบุคลากรการสอนและนักเรียน
การบริหารที่มีการมอบหมายงานเป็นระบบตรวจสอบได้
มีกฎระเบียบของวัดด้านการปกครองที่เข้มแข็ง
มีการส่งเสริมให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงานอย่างใกล้ชิดโดยให้ทุนการศึกษาและนิตยภัตรครู
มีปัจจัย หรือทุนการทำงาน สิ่งสำคัญที่สุด คือ ปรัชญาการทำงานของคณะผู้บริหาร
ต้องมุ่งเสียสละเพื่อการสืบทอดพระพุทธศาสนาเป็นหลัก
ส่วนผลพลอยได้อื่นๆเป็นสิ่งที่จะตามมาภายหลัง หากมีการทำงานอย่างเป็นระบบเช่นนี้
แม้ว่าจะเป็นสำนักศึกษาในชนบทก็ตาม สำนัก
ศาสนศึกษาวัดจองคำ
จะสามารถดำเนินการไปได้อย่างยั่งยืนด้วยการมีระบบการบริหารรองรับอย่างเป็นรูปธรรมและปฏิบัติการได้จริง
เหล่านี้ คือรูปแบบที่โดเด่นน่าที่สำนักเรียนต่างๆควรจะมาศึกษาดูงาน
หรือร่วมเครือข่ายเพื่อขยายการศึกษาด้านพระปริยัติธรรมให้แพร่หลายออกไป พระปริยัติสุนทรให้หลักสำหรับสำนักที่จะเปิดเรียนพระปริยัติธรรมแผนกบาลีนักธรรม
ให้เตรียมความพร้อมในด้านต่อไปนี้
1. เจ้าอาวาสมีความเสียสละสูง
อย่ามีภาระอื่นมากเกินไป
2. บุคลากรครูอาจารย์และนักเรียนต้องพร้อม
3. มีสถานที่พอสมควรที่จะรองรับการขยายตัวได้
4. มีทุนทรัพย์หรือการตั้งกองทุนพอเพียงที่การดำเนินงานในระต้น
5. มีกฎระเบียบที่ถือปฏิบัติเพื่อควบคุมการปกครองอย่างเข้มแข็ง
6. ประการสำคัญ
คือลงมือกระทำจริง วิธีดีก็ตามถ้าไม่ทำ ไม่บรรลุผล
ข้อคิดและแนวทางการปฏิบัติการเหล่านี้
น่าจะบังเกิดประโยชน์แก่การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
การศึกษาด้านพระปริยัติธรรมทางศาสนาคงจะมีลมหายใจสืบไปอีกนานอย่างมิต้องสงสัย
แม้ว่าจะเป็นงานวิจัยนานมาแล้วเกือบ 20 ปี แต่ กระบวนการทำงาน ยังนำมาเป็นบทเรียนของอนุชนได้
ตอบลบครับ ทำงานด้วยใจ
ตอบลบ